กรอบความคิด พิชิตความสำเร็จ (Mindset Getting Done)
- fonfonwebsite
- Mar 7
- 2 min read
เคยสงสัยไหมว่าทำไมบางคนถึงสามารถเผชิญปัญหาและเติบโตขึ้นจากมันได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่บางคนดูเหมือนจะติดอยู่ที่เดิม? ความแตกต่างนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับโชคชะตาหรือพรสวรรค์เพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่ Mindset หรือกรอบความคิดที่เรามีต่อโลกและตัวเอง
Mindset คือสิ่งที่กำหนดวิธีที่เราตอบสนองต่อความท้าทาย อุปสรรค และโอกาสในชีวิต หากเรามี Mindset ที่ส่งเสริมการเติบโต เราจะสามารถมองเห็นโอกาสในทุกปัญหา และมีแรงผลักดันให้เรียนรู้และพัฒนาตนเองอยู่เสมอ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับประเภทของ Mindset วิธีพัฒนา และผลลัพธ์ที่น่าทึ่งของการปรับเปลี่ยนวิธีคิด
ประเภทของ Mindset
Growth Mindset vs. Fixed Mindset
Growth Mindset คือความเชื่อว่าความสามารถของเราสามารถพัฒนาได้ผ่านการเรียนรู้และความพยายาม ในขณะที่ Fixed Mindset เชื่อว่าความสามารถของเราเป็นสิ่งที่ตายตัว เปลี่ยนแปลงไม่ได้ คนที่มี Growth Mindset จะมองว่าความล้มเหลวเป็นบทเรียนและโอกาสในการเติบโต ในขณะที่คนที่มี Fixed Mindset มักจะกลัวความล้มเหลวและพยายามหลีกเลี่ยงความท้าทาย
Abundance Mindset vs. Scarcity Mindset
คนที่มี Abundance Mindset เชื่อว่าโอกาสและทรัพยากรมีมากมายพอสำหรับทุกคน พวกเขาไม่กลัวที่จะแบ่งปันและเปิดรับโอกาสใหม่ ๆ ในทางตรงกันข้าม คนที่มี Scarcity Mindset มักมองว่าโอกาสมีจำกัด และเชื่อว่าการที่คนอื่นได้รับบางอย่างหมายความว่าตัวเองจะต้องสูญเสียสิ่งนั้นไป
Positive Mindset vs. Negative Mindset
Positive Mindset คือกรอบความคิดที่มองโลกในแง่ดี เชื่อว่าทุกปัญหามีทางออก และสามารถเรียนรู้จากทุกสถานการณ์ได้ ในขณะที่ Negative Mindset มักเน้นไปที่ปัญหาและสิ่งที่ผิดพลาด ทำให้ขาดพลังในการเปลี่ยนแปลงตัวเอง
Creator Mindset vs. Victim Mindset
Creator Mindset คือกรอบความคิดของคนที่เชื่อว่าตัวเองเป็นผู้กำหนดชีวิตของตัวเอง พวกเขารับผิดชอบต่อการกระทำและผลลัพธ์ของตนเอง ในขณะที่คนที่มี Victim Mindset มักมองว่าตัวเองเป็นเหยื่อของสถานการณ์และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเองได้
Open Mindset vs. Closed Mindset
Open Mindset คือกรอบความคิดที่เปิดรับมุมมองใหม่ ๆ พร้อมเรียนรู้จากความคิดเห็นที่แตกต่าง ในขณะที่ Closed Mindset มักปิดกั้นตัวเองจากแนวคิดใหม่ ๆ และยึดติดอยู่กับความเชื่อเดิม
Fear-Based Mindset vs. Courageous Mindset
Fear-Based Mindset ถูกขับเคลื่อนด้วยความกลัว ทำให้หลีกเลี่ยงความเสี่ยงและการเปลี่ยนแปลง ในขณะที่ Courageous Mindset เชื่อว่าความกล้าหาญและการเผชิญหน้ากับความกลัวจะนำไปสู่การเติบโตและโอกาสใหม่ ๆ
วิธีการพัฒนา Mindset
ฝึกเปลี่ยนกรอบความคิด (Reframing Thinking)
ทุกครั้งที่เผชิญกับปัญหา ให้ลองเปลี่ยนมุมมองจาก "ทำไมฉันต้องเจอเรื่องนี้?" เป็น "ฉันจะเรียนรู้อะไรจากเรื่องนี้ได้บ้าง?" วิธีนี้ช่วยให้เรามองเห็นโอกาสในการพัฒนาตัวเองจากทุกสถานการณ์
ใช้ Journaling เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในตัวเอง
การเขียนบันทึกเกี่ยวกับความคิดและความรู้สึกของตัวเองช่วยให้เราสามารถประเมิน Mindset ของตัวเองได้ ตัวอย่างเช่น หากต้องการพัฒนา Abundance Mindset อาจเริ่มต้นด้วยการเขียน 3 สิ่งที่รู้สึกขอบคุณในแต่ละวัน
ฝึกการตั้งคำถามเพื่อขยายมุมมอง (Ask More Questions)
การถามคำถามช่วยให้เราฝึก Open Mindset และลด Fixed Mindset เช่น แทนที่จะตัดสินใจแบบเดิม ๆ ให้ลองถามตัวเองว่า "มีทางเลือกอื่นอีกไหม?" หรือ "ฉันสามารถเรียนรู้อะไรจากคนที่คิดต่างจากฉัน?"
ใช้เทคนิค Habit Stacking เพื่อสร้างนิสัยเชิงบวก
Habit Stacking คือการนำพฤติกรรมใหม่ไปเชื่อมกับพฤติกรรมที่เราทำเป็นประจำ เช่น หลังจากแปรงฟันตอนเช้า ให้พูดกับตัวเองว่า "วันนี้ฉันจะพัฒนาตัวเองในเรื่องอะไร?" หรือ หลังจากเช็คอีเมล ให้เขียนสิ่งที่ต้องทำเพื่อให้วันนั้นเป็นวันที่มีประสิทธิภาพ
ใช้ Self-Reflection และ Feedback เป็นเครื่องมือพัฒนา
การมองย้อนกลับไปในสิ่งที่เราทำ และรับฟังความคิดเห็นจากผู้อื่นช่วยให้เราเติบโต หากต้องการพัฒนา Creator Mindset ให้ลองถามตัวเองว่า "ฉันสามารถทำอะไรได้อีกเพื่อพัฒนาสถานการณ์นี้?" แทนที่จะโทษสิ่งแวดล้อมหรือคนอื่น
ฝึกเผชิญความกลัวอย่างมีสติ (Fear Exposure & Mindfulness)
สำหรับผู้ที่ต้องการพัฒนา Courageous Mindset ควรฝึกเผชิญหน้ากับความกลัวเล็ก ๆ น้อย ๆ ทุกวัน เช่น พูดในที่ประชุม หรือทดลองทำสิ่งใหม่ที่ไม่เคยทำมาก่อน การฝึกสติ (Mindfulness) ก็ช่วยให้เราจัดการกับความกลัวได้ดีขึ้นเช่นกัน
บทสรุป
Mindset เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อชีวิตของเรา มันกำหนดวิธีที่เรามองโลก รับมือกับความท้าทาย และพัฒนาไปข้างหน้า คนที่มี Mindset เชิงบวกและเน้นการเติบโตจะสามารถมองเห็นโอกาสที่ซ่อนอยู่ในทุกปัญหา และสร้างชีวิตที่ดีขึ้นให้กับตัวเองได้เสมอ
Mindset ที่ส่งเสริมชีวิตของเรามีหลายรูปแบบ เรียกรวมกันว่า “Growth-Oriented mindset” ซึ่งประกอบด้วย Growth Mindset ที่ช่วยให้เราเปิดรับการเรียนรู้และพัฒนา Abundance Mindset ที่ทำให้เราเชื่อในโอกาสที่มีอยู่รอบตัว Positive Mindset ที่ช่วยให้เรามองปัญหาเป็นโอกาส Creator Mindset ที่ส่งเสริมความรับผิดชอบต่อตัวเอง Open Mindset ที่ทำให้เราเปิดรับมุมมองใหม่ๆ และ Courageous Mindset ที่ช่วยให้เรากล้าเผชิญหน้ากับความท้าทาย แต่ละ Mindset สามารถช่วยให้เราประสบความสำเร็จได้ในด้านต่าง ๆ ทั้งชีวิตส่วนตัว อาชีพ และความสัมพันธ์กับผู้อื่น
การเปลี่ยนแปลง Mindset ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน แต่เป็นกระบวนการที่ต้องฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง วิธีที่มีประสิทธิภาพคือการใช้ กฎ 21 วัน และ Tiny Habits เป็นเครื่องมือปรับพฤติกรรม กฎ 21 วันช่วยให้เราสร้างนิสัยใหม่โดยการทำสิ่งนั้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 21 วัน ในขณะที่ Tiny Habits ช่วยให้เราเริ่มต้นจากพฤติกรรมเล็ก ๆ ที่ง่ายและค่อย ๆ ขยายไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่
ตัวอย่างเช่น หากต้องการพัฒนา Growth Mindset สามารถเริ่มต้นด้วยการพูดกับตัวเองทุกเช้าว่า "วันนี้ฉันจะเรียนรู้อะไรใหม่?" หรือหากต้องการเสริม Positive Mindset อาจฝึกเขียน 3 สิ่งที่รู้สึกขอบคุณในแต่ละวัน และทำติดต่อกัน 21 วันเพื่อให้เป็นนิสัย สิ่งสำคัญคือการเริ่มต้นจากก้าวเล็ก ๆ แล้วค่อย ๆ พัฒนาไปเรื่อย ๆ
เมื่อเรามี Mindset ที่ดีขึ้น เราจะสามารถเรียนรู้และเติบโตจากทุกประสบการณ์ ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดีขึ้น และสร้างชีวิตที่มีคุณค่าและความหมายมากขึ้นในทุก ๆ ด้าน
💡 วันนี้คุณจะเริ่มพัฒนา Mindset ของตัวเองอย่างไร?
ผู้เขียน: โค้ชเจ้ฝน
โค้ช วิทยากร ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาตัวเอง
Comments