EP.3 7 Habits เปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนคนรอบข้าง และเปลี่ยนทั้งองค์กรคู่มือการสร้างนิสัยเชิงบวก สำหรับตัวเรา ครอบครัว และที่ทำงาน

7 Habits เปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนคนรอบข้าง และเปลี่ยนทั้งองค์กร คู่มือการสร้างนิสัยเชิงบวก สำหรับตัวเรา ครอบครัว และที่ทำงาน “ชีวิตที่ดีไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มาจากนิสัยที่เราปลูกฝังในทุกวันธรรมดา” - ดร.นงรัตน์ อิสโร (โค้ชเจ้ฝน)

ตอนที่ 3: สู่ระบบองค์กร – 7 Habits สร้างวัฒนธรรมที่เติบโตและเป็นสุข

“องค์กรที่ดีไม่ใช่แค่องค์กรที่ ‘ผลประกอบการดี’ แต่คือที่ที่ ‘คนอยากตื่นเช้ามาทำงานด้วยใจที่ดี’ ทุกวัน”

ในยุคที่องค์กรต้องเผชิญกับทั้งการแข่งขัน เทคโนโลยี และความเปลี่ยนแปลงไม่หยุดยั้งสิ่งที่ “ยั่งยืนที่สุด” กลับไม่ใช่แค่แผนกลยุทธ์หรือเครื่องมือใหม่แต่คือ “วัฒนธรรมภายใน” ที่ช่วยให้คนในองค์กร คิดเป็น ทำงานเป็น และอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความหมาย

แนวคิด 7 Habits of Highly Effective People ของ Stephen R. Covey จึงกลายเป็นมากกว่าเครื่องมือพัฒนาตนเองแต่นำไปสู่ แนวทางการสร้างวัฒนธรรมองค์กร ที่ทรงพลัง — เพราะมันเริ่มจาก “คน” และแผ่ขยายไปสู่ “ระบบ”

🔸 7 Habits สะท้อนวัฒนธรรมองค์กรอย่างไร?

แต่ละอุปนิสัย ไม่ได้เปลี่ยนแค่พฤติกรรมส่วนบุคคลแต่ยังเป็นหลักคิดเชิงระบบ ที่ส่งผลต่อบรรยากาศการทำงาน ความสัมพันธ์ และประสิทธิภาพทั้งองค์กร

ลองพิจารณาทีละข้อ พร้อมตัวอย่างที่อิงจากหลักจิตวิทยาองค์กรและการจัดการ:

1. Be Proactive – พนักงานมีเจ้าของชีวิต งาน และความรับผิดชอบ

องค์กรที่มีคน proactive ไม่ต้องคอย “สั่ง”เพราะพนักงานรู้หน้าที่และเลือกที่จะรับผิดชอบ แม้ในสถานการณ์ที่ยาก

📌 งานวิจัยของ Bateman & Crant (1993) ระบุว่า พนักงานที่มีพฤติกรรม proactive มีแนวโน้มคิดริเริ่ม พัฒนาตนเอง และปรับตัวได้สูงกว่าค่าเฉลี่ย

วัฒนธรรมที่ส่งเสริม:– เปิดโอกาสให้พนักงานเสนอไอเดีย– แทนที่จะลงโทษเมื่อพลาด จงโค้ชเพื่อเรียนรู้และเติบโต

2. Begin with the End in Mind – ทุกคนทำงานในทิศทางเดียวกัน

องค์กรที่ใช้หลักข้อนี้ จะสื่อสารเป้าหมายองค์กรอย่างชัดเจนและช่วยให้พนักงานแต่ละคนเห็นว่า “งานของฉันเชื่อมโยงกับเป้าหมายใหญ่ได้อย่างไร”

🎯 จาก Gallup: พนักงานที่รู้ว่า “บทบาทของตนมีส่วนสำคัญกับพันธกิจองค์กร” มีแนวโน้มจะทุ่มเทมากกว่า 2 เท่า

วัฒนธรรมที่ส่งเสริม:– เชื่อมโยง OKR หรือ KPI กับวิสัยทัศน์องค์กรให้เข้าใจง่าย– พูดเรื่อง “คุณค่า” มากพอ ๆ กับ “เป้า”

3. Put First Things First – จัดลำดับความสำคัญเป็น ไม่หลงกับเรื่องด่วนแต่ไม่สำคัญ

องค์กรจำนวนมาก “ยุ่งแต่ไม่มีพลัง” เพราะติดกับดักของงานด่วนHabit นี้ช่วยให้ทีมกลับมาโฟกัสที่สิ่งสำคัญจริง ๆ ทั้งระยะสั้นและระยะยาว

🔎 Eisenhower Matrix ที่ Covey พัฒนาต่อ ถูกใช้ในหลายองค์กรระดับโลกเพื่อวิเคราะห์งานและตัดสินใจลงทุนเวลาอย่างมีคุณภาพ

วัฒนธรรมที่ส่งเสริม:– ใช้ตาราง 4 ช่องในประชุมวางแผนรายสัปดาห์– ลดประชุมที่ไม่จำเป็น และให้เวลาสำหรับการคิดงานลึก

4. Think Win-Win – ความสัมพันธ์ที่เติบโต ไม่ใช่แค่ความสำเร็จเดี่ยว

Win-Win คือรากฐานของการบริหารทีม สร้างความไว้วางใจ และเจรจาแบบยั่งยืนไม่ใช่การ “ประนีประนอม” แต่คือการมองว่า “ทั้งสองฝ่ายจะได้อะไรไปด้วยกัน?”

💬 Covey เขียนว่า “Win-Win คือการมองโลกผ่านกรอบ abundance — เชื่อว่าโลกนี้มีพอสำหรับทุกคน”

วัฒนธรรมที่ส่งเสริม:– ออกแบบระบบรางวัลที่พิจารณาผลลัพธ์ร่วม ไม่ใช่แค่การแข่งขันภายใน– ใช้แนวทาง negotiation เชิงบวกในทุกระดับ

5. Seek First to Understand… – วัฒนธรรมการฟังที่ลดความขัดแย้ง เพิ่มความไว้ใจ

องค์กรที่ฟังกันจริง คือองค์กรที่เข้าใจกันเร็ว ขัดแย้งน้อย และร่วมมือได้ลึกและการฟัง ไม่ได้เป็นหน้าที่ของ “HR” หรือ “หัวหน้า” เท่านั้น แต่คือทักษะของทุกคน

🧠 งานศึกษาจาก MIT พบว่า ทีมที่ฟังกันดี (เชิง nonverbal และ verbal) มีประสิทธิภาพในการตัดสินใจสูงกว่า 35%

วัฒนธรรมที่ส่งเสริม:– สอน Active Listening และ Empathic Communication ให้กับหัวหน้างาน– ออกแบบระบบ feedback ที่เปิดกว้างและปลอดภัย

6. Synergize – ความหลากหลายกลายเป็นพลัง ไม่ใช่ความขัดแย้ง

องค์กรที่หลากหลายทางความคิด จะมีนวัตกรรมมากกว่าองค์กรที่มีคนคิดเหมือนกันหมดSynergy คือการใช้ความต่างเป็นวัตถุดิบในการสร้างสิ่งใหม่

📊 จาก McKinsey (2020): องค์กรที่มีความหลากหลายสูง มีโอกาสทำกำไรสูงกว่าค่าเฉลี่ยถึง 36%

วัฒนธรรมที่ส่งเสริม:– ตั้งทีม cross-functional สำหรับงานเชิงนวัตกรรม– ยอมรับความเห็นต่างในห้องประชุม โดยไม่รีบหาข้อสรุป

7. Sharpen the Saw – คนมีพลัง งานก็มีคุณภาพ

องค์กรที่ดีไม่ดูแค่ผลผลิต แต่ดูแล “คนที่ผลิต” ด้วยHabit ข้อนี้คือการลงทุนในสุขภาวะของคนในองค์กร ทั้งทางกาย ใจ ความรู้ และความหมาย

📚 Harvard Business Review รายงานว่า องค์กรที่มีระบบพัฒนาและดูแลคนอย่างต่อเนื่อง มีอัตราการลาออกต่ำลงถึง 28% และ productivity เพิ่มขึ้นเกือบ 20%

วัฒนธรรมที่ส่งเสริม:– สนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิต ไม่ใช่แค่เมื่อมีตำแหน่ง– ให้พื้นที่การพัก พัฒนาทักษะ และการรีเฟรชแบบมีคุณภาพ

บทสรุป: องค์กรที่มี 7 Habits ไม่ใช่แค่มี “คนเก่ง” แต่มี “ระบบที่เกื้อหนุนคนให้เติบโต”

“ระบบที่ดีไม่ใช่ระบบที่ควบคุมคนแต่คือระบบที่ปลดล็อกศักยภาพของคน”

การนำ 7 Habits มาสู่ระดับองค์กร ไม่ใช่เรื่องของการอบรม 1 วันแต่คือการ หล่อหลอมวัฒนธรรมใหม่ ที่เริ่มจากคน… แล้วค่อย ๆ ขยายไปสู่กระบวนการและวิธีทำงาน

องค์กรที่ใช้ 7 Habits อย่างแท้จริง จะกลายเป็นที่ที่ “คนอยากเติบโตไปด้วยกัน”และเมื่อคนในองค์กรมีนิสัยที่ดี ระบบใด ๆ ก็จะกลายเป็นระบบที่มีชีวิต

❝ ถ้าเราปรับนิสัยของคนได้ เราเปลี่ยนระบบได้ถ้าเรามีระบบที่หนุนคนได้ เราสร้างองค์กรที่ยั่งยืนได้แน่นอน ❞