top of page

Iceberg Model: เข้าใจความต่างของมนุษย์จากรากลึกแห่งจิตใจ


บทนำ: ทำไมเราเข้าใจคนอื่นได้ยากนัก?

ในโลกที่เต็มไปด้วยความหลากหลายของบุคคล ท่าที คำพูด และพฤติกรรมของผู้คนอาจนำมาซึ่งความไม่เข้าใจ ความขัดแย้ง หรือแม้แต่การตัดสินกันโดยไม่รู้ตัวผู้คนมักมองเห็นเพียง “สิ่งที่อีกฝ่ายแสดงออก” แล้วใช้สิ่งนั้นเป็นเกณฑ์ในการนิยามคุณค่าของผู้อื่นแต่คำถามคือ… สิ่งที่เรามองเห็น เป็น “ความเป็นจริงทั้งหมด” แล้วหรือยัง?

Virginia Satir นักบำบัดครอบครัวผู้ทรงอิทธิพล ได้นำเสนอ Iceberg Modelโมเดลที่ช่วยให้เราเข้าใจว่า พฤติกรรมที่มนุษย์แสดงออกนั้นเป็นเพียง “ยอดของภูเขาน้ำแข็ง”ขณะที่แก่นแท้ของความคิด ความรู้สึก และแรงจูงใจซ่อนอยู่ลึกลงไปใต้พื้นผิวน้ำ
ree

Iceberg Model: ความเป็นมนุษย์ที่ซ่อนอยู่ใต้พฤติกรรม

Iceberg Model ของ Satir แสดงให้เห็นว่า พฤติกรรมภายนอกเป็นเพียง “ผลลัพธ์”แต่ “รากเหง้า” ของพฤติกรรมนั้น มาจากกระบวนการภายในของมนุษย์ซึ่งมีหลายชั้น ได้แก่:


🔹 1. พฤติกรรม (Behavior) : ยอดภูเขาน้ำแข็งที่ผู้คนมองเห็น

พฤติกรรมคือสิ่งที่ผู้อื่นรับรู้ได้ทันที เช่น การพูด น้ำเสียง การสบตา หรือการนั่งไขว้แขน ทุกการกระทำที่ปรากฏภายนอกดูเหมือนเป็นสาระสำคัญของการสื่อสาร แต่แท้จริงแล้ว มันเป็นเพียง “ผลลัพธ์สุดท้าย” จากกระบวนการภายในที่ซับซ้อนยิ่ง

ตัวอย่างเช่น:

  • คนที่พูดเสียงดัง อาจไม่ได้ต้องการแสดงอำนาจ แต่อาจพยายามเอาชนะความรู้สึกว่า "ตัวเองไม่มีความสำคัญ"

  • คนที่เลี่ยงสายตา ไม่ใช่เพราะไม่มีมารยาท แต่อาจกำลังรู้สึกไม่มั่นใจ หรือไม่กล้าสื่อสารความรู้สึกแท้จริง

การมองเพียงพฤติกรรมโดยไม่สำรวจสิ่งที่อยู่เบื้องหลังเท่ากับเรามองเห็นเพียง “10% ของภูเขาน้ำแข็ง”การตัดสินจากสิ่งที่เห็นเพียงอย่างเดียว จึงเป็นอันตรายต่อความสัมพันธ์


🔹 2. ความรู้สึกที่รับรู้ได้ (Feelings) : แรงสั่นสะเทือนแรกใต้ผิวน้ำ

ความรู้สึกเป็นตัวสะท้อนภายในที่เกิดขึ้นแบบฉับพลัน เช่น โกรธ ดีใจ ผิดหวัง สับสน รู้สึกโดดเดี่ยว

เป็น “ข้อมูลทางอารมณ์” ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมโดยตรง

ในกระบวนการสื่อสาร หากบุคคลไม่สามารถระบุหรือยอมรับความรู้สึกของตนได้ เขาอาจแสดงออกด้วยพฤติกรรมที่ไม่สอดคล้องกับความรู้สึก เช่น

รู้สึกเสียใจ → แต่แสดงออกด้วยการประชดประชัน

รู้สึกไม่มั่นใจ → แต่แสดงออกด้วยความเย่อหยิ่ง

การเรียนรู้ที่จะ “สังเกตและยอมรับอารมณ์ของตน” เป็นก้าวแรกของการสื่อสารที่สอดคล้องกับความเป็นจริงภายใน


🔹 3. ความรู้สึกต่อความรู้สึก (Feelings about feelings) : ชั้นลึกของการควบคุมพฤติกรรม

ความรู้สึกที่ซ้อนทับ เช่น อับอายที่รู้สึกกลัว รู้สึกผิดที่รู้สึกโกรธ – ส่วนนี้ส่งผลอย่างมากต่อพฤติกรรมโดยไม่รู้ตัว

อารมณ์ชั้นนี้ซ่อนอยู่ลึกกว่า และมักเป็นสิ่งที่ผู้คน “ไม่ยอมรับ” หรือ “ตัดสินตัวเอง” เช่น

  • รู้สึก “อับอาย” ที่ตัวเอง “กลัว”

  • รู้สึก “ผิด” ที่รู้สึก “โกรธ”

  • รู้สึก “แย่” ที่ตัวเอง “ร้องไห้”

ความรู้สึกต่อความรู้สึกเหล่านี้ มักถูกเรียนรู้จากประสบการณ์ในครอบครัว วัฒนธรรม หรือสังคม เช่น การที่เด็กชายถูกบอกว่า "ห้ามร้องไห้" อาจเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่รู้สึกอับอายทุกครั้งที่รู้สึกอ่อนแอ

อารมณ์ซ้อนอารมณ์เช่นนี้ ส่งผลให้บุคคล “ปิดบัง” หรือ “ป้องกันตัว” ด้วยพฤติกรรมบางอย่าง เช่น ความนิ่งเฉย การปฏิเสธ หรือแม้แต่ความก้าวร้าว


ree

🔹 4. การรับรู้ (Perceptions) : เลนส์ที่ตีความโลกและผู้คน

การรับรู้คือกระบวนการที่สมองแปลความหมายของสถานการณ์โดยอิงจากประสบการณ์และความเชื่อส่วนตัว เช่น

  • คนหนึ่งอาจมองการนิ่งเฉยว่า “เขาไม่สนใจฉัน”

  • ขณะที่อีกคนมองว่า “เขากำลังให้พื้นที่ฉันอยู่”

Perceptions ไม่ใช่ “ความจริง” แต่คือ “การตีความ” ซึ่งมักเกิดขึ้นอัตโนมัติและส่งผลต่อความรู้สึก ความคิด และพฤติกรรมหากเราไม่ตระหนักว่าแต่ละคน “มีเลนส์รับรู้ต่างกัน” ความเข้าใจผิดและความขัดแย้งจะเกิดขึ้นได้ง่าย


🔹 5. ความคาดหวังและความเชื่อ (Expectations & Beliefs) : รากของพฤติกรรมซ้ำ ๆ

ความเชื่อและความคาดหวังคือ “แผนที่ภายใน” ที่กำหนดว่าเราควรเป็นอย่างไร คนอื่นควรเป็นแบบไหน และโลกควรเป็นเช่นไร เช่น:

  • “ฉันต้องไม่ล้มเหลว”

  • “คนที่ดีต้องไม่โกรธ”

  • “ถ้าฉันไม่เพอร์เฟกต์ ฉันจะถูกปฏิเสธ”

สิ่งเหล่านี้อาจดูเหมือนให้แรงผลักดัน แต่ในทางกลับกัน หากขาดความยืดหยุ่น ก็อาจกลายเป็นกับดักที่สร้างความทุกข์

ความเชื่อที่แข็งตัวอาจทำให้เราต่อต้านความต่าง ต่อต้านการเปลี่ยนแปลง และไม่ยอมรับตัวเองในบางสถานการณ์


🔹 6. ตัวตน (Self) : แก่นแท้ของความเป็นมนุษย์

ชั้นลึกสุดของภูเขาน้ำแข็งคือ “Self” – ภาพลึกภายในของตัวเองที่ก่อตัวจากการเลี้ยงดู ประสบการณ์ และความสัมพันธ์ เช่น

  • “ฉันมีค่า” หรือ “ฉันไม่คู่ควรกับความรัก”

  • “ฉันเป็นที่รักของคนรอบตัว” หรือ “ไม่มีใครอยากเข้าใกล้ฉัน”

หากบุคคลมี “ภาพตัวตนที่บิดเบี้ยว” เช่น มองว่าตนเองไม่มีคุณค่า ความสัมพันธ์กับผู้อื่นก็จะเต็มไปด้วยความกลัว ความไม่มั่นใจ และความขัดแย้ง

ในทางกลับกัน การเยียวยาตัวตนภายในและสร้างภาพตัวเองที่แข็งแรง จะนำไปสู่พฤติกรรมที่สร้างสรรค์ เมตตา และเปิดรับความแตกต่างของผู้อื่นได้ง่ายขึ้น


การนำ Iceberg Model ไปใช้เพื่อยอมรับและเรียนรู้ซึ่งกันและกัน

การเข้าใจโมเดล Iceberg ของ Satir ไม่ใช่แค่เครื่องมือวิเคราะห์คน แต่มันคือ “กระจก” ที่ชวนเรามองมนุษย์ทุกคน (รวมถึงตัว

เราเอง) ด้วยความเข้าใจแทนการตัดสิน


ตัวอย่าง:

พฤติกรรมที่เห็น

ความรู้สึกซ่อนอยู่

การรับรู้

ความเชื่อภายใน

ภาพตัวตน

พูดเสียงดังในที่ประชุม

กลัวถูกมองข้าม

คิดว่าความเงียบ = ไม่มีคุณค่า

ฉันต้องแสดงพลังเพื่อให้คนฟัง

ฉันมีคุณค่าแค่ตอนที่คนเห็นฉัน

เมื่อเราเข้าใจชั้นลึกเหล่านี้ เราจะไม่มองคนในมิติเดียว แต่เห็นว่า “พฤติกรรมที่ยากเข้าใจ” มักสะท้อน “ความต้องการบางอย่างที่ยังไม่ได้รับการเติมเต็ม”

มาถึงตรงนี้เราจึงรู้แล้วว่า สิ่งที่เราควรฝึกฝนเพื่อเข้าใจและเรียนรู้ในความเป็นมนุษย์ที่จะอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบ คือ

  1. หยุดตัดสินจากสิ่งที่เห็นสิ่งที่เราเห็นอาจเป็นแค่ กลไกการเอาตัวรอด ของใครบางคน ลองตั้งคำถามว่า “เกิดอะไรขึ้นกับเขา?” แทน “เขาเป็นคนยังไง?”

  2. ฟังด้วยความเข้าใจ ไม่ใช่เพื่อโต้ตอบฟังให้ได้ยินสิ่งที่เขา ไม่ได้พูด ด้วยคำถาม เช่น “สิ่งที่เธอพูด หมายความว่าอะไรสำหรับเธอ?”

  3. สร้างพื้นที่ปลอดภัยในการแสดงความรู้สึกไม่ใช่ทุกคนพร้อมเปิดเผยความรู้สึกทันที การไม่เร่งเร้า แต่ “อยู่กับเขา” อย่างอ่อนโยน จะเปิดโอกาสให้เขาค่อย ๆ แสดงชั้นใต้ผิวน้ำออกมา

  4. ฝึกสำรวจภูเขาน้ำแข็งของตัวเองถ้าเราไม่รู้จักชั้นภายในของตนเอง เราจะไม่สามารถเข้าใจคนอื่นได้อย่างแท้จริง


ree

บทสรุป: การยอมรับความต่าง เริ่มที่การเข้าใจความลึกของมนุษย์

Virginia Satir เชื่อว่า

“Behind every behavior is a positive intention.”เบื้องหลังทุกพฤติกรรม มีความต้องการบางอย่างที่มีเจตนาดี

Iceberg Model จึงไม่ใช่แค่ทฤษฎีเพื่อทำความเข้าใจคนอื่น แต่คือแนวทางที่ชวนเรา เคารพความเป็นมนุษย์ ในแบบที่เขาเป็น


และเชื่อว่า...แม้เราจะมีความต่าง แต่เราทุกคนต่างก็มี “ภูเขาน้ำแข็ง” ที่รอให้ใครสักคนเข้าไปเข้าใจ


โดย โค้ชเจ้ฝน


 
 
 

Comments

Rated 0 out of 5 stars.
No ratings yet

Add a rating

© 2035 by Site Name. Powered and secured by Wix

bottom of page