นักประสาน 10 ทิศ: สร้างเครือข่ายอย่างไรให้ได้ทั้งมิตรและโอกาส
- fonfonwebsite
- May 13
- 2 min read
หลายคนมองว่าการสร้างเครือข่าย (Networking) เป็นเพียงแค่การรู้จักคนให้มากที่สุด หรือการแลกนามบัตรในการประชุม แต่แท้จริงแล้ว Networking ที่มีประสิทธิภาพ คือ การสร้างความสัมพันธ์ที่มีคุณค่าและยั่งยืน เครือข่ายที่แข็งแกร่งช่วยเปิดประตูสู่โอกาสทางอาชีพ ธุรกิจ การพัฒนาชุมชน และการพัฒนาตัวเองได้อย่างก้าวกระโดด เพราะการประสานงานสร้างเครือข่ายที่ดีจะช่วยให้คุณได้รับโอกาสใหม่ๆ ได้เรียนรู้จากคนที่มีประสบการณ์และพัฒนาตัวเองได้เร็วขึ้น และมีคนช่วยสนับสนุนในช่วงเวลาที่ต้องการความช่วยเหลือนั่นเอง อย่างไรก็ตาม มีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการสร้างเครือข่ายเกิดขึ้นเสมอ เช่น “การประสานงานเพื่อสร้างเครือข่าย เหมาะกับคน Extrovert เท่านั้น” แต่จริงๆ แล้ว แม้แต่ Introvert ก็สามารถสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งได้
หากรู้เทคนิคที่ถูกต้อง หรือ ความคิดที่ว่า "ต้องรู้จักคนให้เยอะที่สุด" นั่นก็ไม่ถูกต้อง เพราะการมีคนรู้จักมากอาจดี แต่ถ้าไม่สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมาย ก็ไม่มีประโยชน์ และเรามักติดกับดักที่ว่า การเป็นเครือข่าย "ต้องมีผลประโยชน์แลกเปลี่ยนกันเสมอ" แต่ความจริงแล้วความสัมพันธ์ที่ดีไม่ใช่เรื่องของผลประโยชน์ระยะสั้น แต่คือการช่วยเหลือและสนับสนุนกันอย่างจริงใจต่างหาก และบทความนี้จะช่วยให้คุณเป็นนักประสานงานเพื่อสร้างเครือข่ายที่ได้ทั้งมิตรภาพและโอกาสอย่างแท้จริง

เคล็ดลับสร้างเครือข่ายให้ได้ทั้งมิตรและโอกาส
การสร้างเครือข่ายไม่ได้หมายถึงการรู้จักคนให้มากที่สุดเท่านั้น แต่คือ การสร้างความสัมพันธ์ที่มีคุณค่าและยั่งยืน เราไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่มีเพื่อนเยอะ หรือเข้าสังคมเก่ง แต่เราต้องเป็นคนที่รู้จัก เข้าถึง-เชื่อมโยง-ดูแล ความสัมพันธ์เหล่านั้นให้เติบโตไปพร้อมกับเรา เครือข่ายที่ดีช่วยให้คุณมีที่ปรึกษา มีโอกาสใหม่ๆ และมีแรงสนับสนุนเมื่อต้องการ แต่เราจะสร้างเครือข่ายให้มีคุณค่าได้อย่างไร? ต่อไปนี้คือ 5 เคล็ดลับสำคัญในการเป็นนักประสาน 10 ทิศ เพื่อสร้างเครือข่ายที่ให้ได้ทั้งมิตรภาพและโอกาส
สร้างเครือข่ายอย่างมีเป้าหมาย (Purposeful Networking)
การสร้างเครือข่ายที่ดีเริ่มต้นจากการตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน คุณต้องการเครือข่ายแบบไหน และเพื่ออะไร? เช่น หากคุณเป็นนักพัฒนาโครงการ คุณต้องการหาพันธมิตรที่ช่วยให้โครงการสำเร็จ หากคุณเป็นนักเรียน คุณต้องการที่ปรึกษาหรือโอกาสฝึกงาน หากคุณเป็นนักธุรกิจ คุณต้องการพันธมิตรที่ช่วยขยายธุรกิจ หรือหากคุณเป็นพนักงาน คุณต้องการเครือข่ายที่ช่วยให้คุณก้าวหน้าในอาชีพ
กลยุทธ์:
สร้างเครือข่ายที่สอดคล้องกับเป้าหมายของคุณ แทนที่จะสุ่มรู้จักใครก็ได้
ค้นหาคนที่คุณสามารถเรียนรู้จากเขา และคุณสามารถให้คุณค่าแก่เขาได้เช่นกัน
ใช้ "Strategic Networking" โดยเลือกเข้าร่วมกลุ่ม องค์กร หรืออีเวนต์ที่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายของคุณ
ใช้หลักการ “Give First” การให้ก่อนรับ
คนส่วนใหญ่มักเข้าหาเครือข่ายด้วยคำถามว่า "ฉันจะได้อะไร?" แต่การสร้างเครือข่ายที่ยั่งยืนต้องเริ่มจาก การให้ก่อน ตัวอย่างของการให้มีหลายรูปแบบ เช่น แนะนำคนในเครือข่ายให้รู้จักกัน แชร์ความรู้หรือประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ สนับสนุนโปรเจกต์หรือกิจกรรมของผู้อื่น (สนับสนุนได้ทั้งกำลังกาย กำลังใจ กำลังปัญญา และกำลังทรัพย์) หรือให้คำแนะนำ/คำปรึกษา โดยไม่หวังผลตอบแทนทันที เมื่อคุณเป็นคนที่ “ให้” ก่อนเสมอ เครือข่ายของคุณจะยินดีช่วยเหลือคุณกลับเมื่อคุณต้องการ และการให้ของคุณจะสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกว่าการคาดหวังผลตอบแทนโดยตรง
Personal Branding ทำให้คนอยากรู้จักคุณ
เครือข่ายที่ดีไม่ได้เกิดจากการไล่ตามคนอื่นเสมอไป แต่เกิดจากการที่ คุณมีตัวตนที่โดดเด่นพอที่คนอื่นอยากเข้าหาคุณ คุณอยากให้คนจดจำคุณในเรื่องอะไร? คุณมีจุดแข็งหรือความเชี่ยวชาญด้านไหน? คุณสามารถสร้างตัวตนของคุณได้ เช่น แชร์ความรู้และมุมมองผ่าน LinkedIn งานเขียน หรือการบรรยาย ทำให้ตัวเองเป็น “Top of Mind” ในสายงานของคุณ เพื่อให้คนอื่นนึกถึงคุณเมื่อมีโอกาส และมี "Elevator Pitch" ที่กระชับและน่าจดจำ เพื่อให้สามารถแนะนำตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เทคนิคการเข้าหาและทำความรู้จักแบบมืออาชีพ
การเริ่มต้นสร้างเครือข่ายอาจเป็นเรื่องยาก แต่เทคนิคเหล่านี้จะช่วยให้คุณเริ่มได้ง่ายขึ้น:
ใช้ "Elevator Pitch": แนะนำตัวเองใน 30 วินาทีให้น่าสนใจ โดยเน้นว่า คุณทำอะไร และคุณช่วยอะไรได้บ้าง
ใช้คำถามปลายเปิด เช่น “คุณกำลังทำโปรเจกต์อะไรที่ตื่นเต้นอยู่ตอนนี้?” หรือ “คุณต้องการพัฒนาตัวเองเรื่องอะไรเป็นพิเศษ ที่จะทำให้คุณภาพชีวิตคุณดีขึ้น” เพื่อกระตุ้นบทสนทนา
มองหาความเชื่อมโยงร่วมกัน เช่น ความสนใจ งานอดิเรก หรือเป้าหมายที่คล้ายกัน
เข้าหาอย่างเป็นธรรมชาติ อย่าทำให้การสร้างเครือข่ายดูเป็น "การขาย" หรือ "ขอความช่วยเหลือ" มากเกินไป ให้มองว่าเป็นการ "สร้างมิตรภาพ" ที่ยั่งยืน
ศิลปะแห่งการ Follow-up และรักษาความสัมพันธ์
Networking ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่ต้องมีการดูแลต่อเนื่อง เช่น ส่งข้อความหรืออีเมลติดตามหลังจากพบกัน พร้อมระบุสิ่งที่คุณได้เรียนรู้จากการสนทนา เช่น “ผมประทับใจกับแนวคิดของคุณเกี่ยวกับการพัฒนาธุรกิจมาก หวังว่าจะได้แลกเปลี่ยนไอเดียกันอีกนะครับ” หรือ หมั่นโต้ตอบกับเครือข่ายผ่าน Social Media หรือการพบปะอย่างไม่เป็นทางการ เช่น ทักทายกันเป็นระยะ หรือชวนกันไปเข้าร่วมอีเวนต์ และคิดถึงประโยชน์ของเครือข่ายทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่เพียงแค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เช่น “คุณอาจสนใจเจอเพื่อนผมที่ทำงานด้านเดียวกับคุณ ผมจะเชื่อมโยงให้พวกคุณรู้จักกันดีไหม?” “ฉันมีเพื่อนที่เรียนสาขาออกแบบผลิตภัณฑ์ เขาอาจช่วยแนะนำคุณได้ คุณอยากคุยกับเข้าไหม?”

วิธีรักษาและขยายเครือข่ายให้ยั่งยืน
การสร้างเครือข่ายไม่ได้จบลงแค่การทำความรู้จักกันในครั้งแรก แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือการ รักษาและขยายเครือข่ายให้เติบโตอย่างยั่งยืน เครือข่ายที่มีคุณค่าไม่ใช่แค่มีคนรู้จักเยอะ แต่เป็นเครือข่ายที่พร้อมสนับสนุนซึ่งกันและกันในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายทางอาชีพ ธุรกิจ หรือชุมชน การดูแลเครือข่ายอย่างเหมาะสมจะช่วยให้คุณมีโอกาสใหม่ ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
จัดลำดับความสำคัญของเครือข่าย
ไม่ใช่ทุกความสัมพันธ์ที่ต้องรักษาในระดับเดียวกัน ควรจัดลำดับความสำคัญของเครือข่าย เช่น เครือข่ายที่มีอิทธิพลต่อความสำเร็จของคุณ, เครือข่ายที่ให้คำปรึกษา, และเครือข่ายที่คุณต้องการสนับสนุน
ใช้แนวคิด “Strength of Weak Ties” ซึ่งหมายถึงการดูแลเครือข่ายที่อาจไม่สนิทมาก แต่สามารถนำมาสู่โอกาสใหม่ ๆ ได้
หมั่นเชื่อมโยงและติดต่อกับเครือข่ายที่สำคัญผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น การส่งข้อความติดตามผล การแบ่งปันข่าวสารที่เป็นประโยชน์ หรือการชวนเข้าร่วมกิจกรรม
เป็น "นักเชื่อมโยง" สร้างเครือข่ายระหว่างคนรู้จัก
การเป็น “Connector” หรือ นักเชื่อมโยง เป็นทักษะที่ช่วยให้คุณเป็นศูนย์กลางของเครือข่าย
ลองแนะนำคนสองคนที่คุณคิดว่าอาจเป็นประโยชน์ต่อกัน เช่น "ฉันคิดว่าคุณสองคนมีความสนใจคล้ายกันและอาจช่วยเหลือกันได้ดี ลองทำความรู้จักกันดูไหม?"
การเป็นผู้ที่ช่วยให้คนอื่นสร้างเครือข่ายได้มากขึ้น จะทำให้คุณกลายเป็นบุคคลที่มีความสำคัญในสายสัมพันธ์เหล่านั้น
จัดกิจกรรม Networking ของตัวเอง
หากไม่มีโอกาสเข้าร่วม Networking Events คุณสามารถ สร้างเวทีของตัวเอง เช่น จัดเวิร์คชอป งานสัมมนา หรืองานพบปะเล็ก ๆ ที่เชื่อมโยงผู้คนที่มีความสนใจคล้ายกัน
ใช้ Social Media และแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อจัดกิจกรรมที่สามารถเข้าถึงเครือข่ายได้กว้างขึ้น เช่น การจัด Live พูดคุยหรือ Webinar
การสร้างเครือข่ายเพื่อพัฒนาชุมชนท้องถิ่น
เครือข่ายไม่ได้จำกัดแค่ธุรกิจและอาชีพ แต่สามารถขยายไปสู่การพัฒนาชุมชนที่คุณอาศัยอยู่
ร่วมมือกับองค์กรท้องถิ่น กลุ่มอาสาสมัคร หรือเครือข่ายผู้ประกอบการในพื้นที่ เพื่อช่วยกันสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคม
ใช้ หลักการ “Give First” ในระดับชุมชน เช่น การสนับสนุนโครงการพัฒนาเมือง การส่งเสริมการศึกษา หรือการพัฒนาธุรกิจขนาดเล็ก
ตัวอย่าง: หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจ คุณอาจร่วมมือกับโรงเรียนในท้องถิ่นในการให้ความรู้เรื่องการประกอบอาชีพ หรือหากคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาหนึ่ง คุณอาจจัดกิจกรรมเวิร์กชอปเพื่อแบ่งปันความรู้ให้กับเยาวชนในพื้นที่
เทคนิคการดูแลเครือข่ายในระยะยาว
Follow-up อย่างมีคุณค่า: หมั่นติดต่อกับเครือข่ายผ่านข้อความหรืออีเมล เช่น “ขอบคุณสำหรับการสนทนาที่ดีเมื่อวันก่อน ฉันยังคงคิดถึงไอเดียของคุณเกี่ยวกับ... หวังว่าจะได้ร่วมงานกันในอนาคต”
การให้ความช่วยเหลือโดยไม่หวังผลตอบแทน: เครือข่ายที่ดีคือการสนับสนุนกัน เช่น หากคุณพบโอกาสงานที่เหมาะกับคนรู้จัก ลองแนะนำให้พวกเขา
จัดลำดับเวลาในการดูแลเครือข่าย: คุณอาจกำหนดเวลาทุกไตรมาสในการติดตามความสัมพันธ์สำคัญ เช่น ส่งข้อความสั้น ๆ หรือเชิญเข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับงานของพวกเขา

บทสรุป
การสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งไม่ได้เป็นเพียงทักษะที่ช่วยให้คุณมีโอกาสทางอาชีพมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็น เครื่องมือสำคัญในการพัฒนาตนเองและสร้างความเปลี่ยนแปลงในสังคม เครือข่ายที่ดีไม่ได้เกิดจากการรู้จักคนจำนวนมาก แต่เกิดจาก การสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง มีคุณค่า และยั่งยืน
นักประสานที่แท้จริง คือผู้ที่สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่เป็นมากกว่าแค่การทำงานหรือธุรกิจ แต่เป็น เครือข่ายที่ให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน และเติบโตไปด้วยกัน
การมีเครือข่ายที่แข็งแกร่งจะช่วยให้คุณสามารถรับมือกับความท้าทาย เรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้อื่น และใช้ทรัพยากรรอบตัวให้เกิดประโยชน์สูงสุด สิ่งสำคัญคือ การลงมือทำ เริ่มจากการ ตั้งเป้าหมายในการสร้างเครือข่าย มองหาคนที่คุณสามารถเรียนรู้และสนับสนุนซึ่งกันและกัน ใช้หลักการ Give First เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งและจริงใจ และที่สำคัญ ดูแลและขยายเครือข่ายให้เติบโตไปพร้อมกับคุณ
การเป็น นักประสานตัวจริง ไม่ได้หมายถึงแค่การรู้จักคนมากมาย แต่หมายถึงการสร้างเครือข่ายที่สามารถนำไปสู่ มิตรภาพ โอกาส และการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสายอาชีพใด คุณสามารถใช้เครือข่ายให้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาทั้งตัวเองและสังคมรอบตัวได้
Excellent 👍